Tuesday, April 14, 2009

เศรษฐกิจ ปี 2552 คุณคิดว่าธุรกิจอะไรจะอยู่รอด?

จัดทำโดย นายธีรวิทย์ วิบูลผล
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis)” ที่เกิดขึ้นมาจากสถาบันทางการเงินระดับยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาต้องล้มครืน ส่งผลให้เศรษฐกิจและตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกต้องสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หลายองค์กรใหญ่ๆ ในภาคการผลิต (Manufacturing) ได้รับผลกระทบโดยตรงเหล่าบริษัทขนาดใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น บริษัทอุตสาหกรรมอิเล็กโทรนิกส์ บริษัทอุตสาหกรรมการบิน บริษัทอุตสาหกรรมขนส่ง สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลก และอีกหลายธุรกิจ ที่ประกาศปลดพนักงานเป็นรายวัน อย่างที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ในทุกวันนี้ มันทำให้เรารู้สึกใจหายกันมากทีเดียว
ในเมืองไทยเราเองก็กำลังตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ต่างกับประเทศอื่นๆ เช่นนี้ ธุรกิจ SME หลายแห่ง แห่ปิดตัวตามๆกันเลย ส่วนบางธุรกิจที่ดีหน่อยยังพอประคองตัวรอดได้ แต่ก็ save cost กันน่าดู อย่างที่เห็นตามข่าว เค้าโละพนักงานทิ้งเป็นผักปลากันทีเดียวเชียว บ้างก็ไม่จ่ายโบนัส อ้างว่าขาดทุนบ้างล่ะ ... มันเลยทำให้คิดว่า ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้จะมีธุรกิจอะไรนะ ! ถึงจะไปรอด?...ในยามที่คนรัดเข็มขัดกันแน่น (ในสภาพที่ไม่ต่างอะไรกับปี 40 ผู้รู้หลายคนบอกว่าแย่กว่าซะอีก) ช่วงนี้คนใช้เงินใช้ทองประหยัดมากขึ้น นิยมอยู่กับบ้านมากกว่าออกไปข้างนอก ซึ่งคาดว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเลยทีเดียว
พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสกันอย่างไรดี? ทำอะไรถึงจะไปรอด? ไปอ่านเจอในบล็อกๆหนึ่งที่ชื่อว่า blog.beenverified.com ซึ่งเค้าเปิดประเด็น “What to Look for in 2009 or What Companies Will Survive the Coming Economic Storm” ไว้..แล้วให้ขาบล็อกทั้งหลายเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่า..
บริษัทอะไรถึงจะอยู่รอดปลอดภัยจากพายุเศรษฐกิจและจะคาดหวังอะไรในปี 2009 ที่บล็อกนี้น่าสนใจเพราะชาวบล็อกที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่นั้นเป็นชาว Gen X และ Gen Y ที่ชอบเล่นเน็ตอยู่แล้ว และบางคนก็ไม่ใช่พวกว่างงาน ที่ชอบท่องเน็ตไปวันๆเท่านั้น แต่เค้าทำรายได้จากการทำธุรกิจอินเทอร์เน็ต ปีละกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ กันเลยทีเดียว..
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจเกิดความคิดว่า.. ทำรายได้จากอินเทอร์เน็ตนะหรือ? ทำอย่างไร? ทำแล้วได้เงินจริงหรือ? แล้วทำไมต้องเป็นธุรกิจอินเทอร์เน็ต? ลองมาดูความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่กันค่ะ
ชาวบล็อกคนหนึ่งที่ชื่อ “Josh” เค้าได้สรุปถึง การทำธุรกิจออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตไว้ว่า... ธุรกิจนี้น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับองค์กรและบุคคลที่กำลังมองหาธุรกิจ “Blue Ocean” (หมายถึง ธุรกิจในมหาสมุทรสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจตลาดที่คู่แข่งยังมีไม่มาก) โดยเค้ามองว่าธุรกิจที่น่าจะประสบความสำเร็จในปี 2009 คือ

1.ธุรกิจที่ช่วยบุคคลหรือองค์กรในการสร้างรายได้ (Help people / businesses make
money.)

2.ธุรกิจที่ช่วยบุคคลหรือองค์กรในการประหยัดเงิน (Help people / businesses save money.)

3.ธุรกิจที่ช่วยบุคคลหรือองค์กรในการเข้าถึงแหล่งเงินหรือแหล่งทุน (Help people / businesses access money.)

จากการวิเคราะห์ตามแนวทางนี้แล้ว มันก็เป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจสร้างรายได้เพราะ ยุคนี้เป็นยุคดิจิตอลจริงๆ โลกเราทุกวันนี้เป็นโลกแห่งอินเทอร์เน็ต ใครอยากรู้อยากหา อยากอ่าน หรือแม้กระทั่ง อยากซื้อสินค้าอะไรก็ค้นหาได้ทางอินเทอร์เน็ต ธุรกิจนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการทำธุรกิจขนาดเล็กๆ และเป็นทางเลือกให้แก่คนรุ่นใหม่ที่อยากสร้างรายได้อย่างไร้ขีดจำกัดในยามเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้
ซึ่ง Josh ยังคาดการณ์ด้วยว่าเศรษฐกิจแบบนี้ จะมีคนอยู่กับบ้านแล้วเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทั้งหางานทำ หาเพื่อน ดูหนัง เล่นเกม ขายของเก่า ฯลฯ เขาจึงคิดว่าถ้ามีผู้ทำธุรกิจ ด้านจัดหางาน ขายเกม ขายหนัง ธุรกิจหาเพื่อน (หาแฟน) ธุรกิจให้คำแนะนำเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดไฟหรือน้ำ พวกนี้สร้างรายได้ให้เราได้แน่นอน...
โอกาสดีๆ มีอยู่รอบๆตัวเราเองเสมอๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นมันหรือไม่..และเมื่อมองเห็นแล้วจะคว้ามันไว้ และทำมันให้สำเร็จได้หรือไม่...


แหล่งที่มา: http://blog.beenverified.com/what-to-look-for-in-2009or-what-companies-will-survive-the-coming-economic-storm/2008/10/20/




คำถาม

1. Josh สรุปการทำธุรกิจออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตไว้ว่าอย่างไร


2. ธุรกิจ Blue Ocean ในบทความนี้หมายถึงอะไร


3. Josh มองว่าธุรกิจที่น่าจะประสบความสำเร็จในปี 2009 คืออะไร



No comments:

Post a Comment